เรียนท่านผู้มี อุปการะคุณทุกท่าน ขอความกรุณาช่วยกัน แสดงความคิดเห็นด้วยนะขอรับ เืพื่อทางทีมท่านขุนทั้งหลายจะได้นำมาปรับปรุงเพื่อความบันเทิง ของทุกท่านต่อไปในอนาคตขอรับ
วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ห้าเด้ง ตอนที่ 2

เอาละครับ ในที่สุดพวกเราก็มาถึงบ้านยายไอ้นกกันเสียที ต้องบอกก่อนว่า สถานที่แห่งนี้ค่อนข้างกว้างขวางมีต้นไม้รายล้อมอยู่ทั่วไป และในบริเวณเดียวกันนี้ก็มี

บ้านอยู่ด้วยกันสองหลัง โดยหลังด้านในนั้นเป็นบ้านหลังใหญ่ที่ตากับยายไอ้นกพักอาศัยอยู่ ส่วนหลังด้านหน้าที่พวกเราเดินเข้าไปเจอเป็นหลังแรกนั้น เป็นบ้านของญาติ

ไอ้นก ซึ่งเป็นบ้านหลังเล็กๆชั้นเดียวที่ยังสร้างไม่เสร็จดีนัก ตัวบ้านก่ออิฐโดยรอบเป็นห้องเดียว ส่วนที่เป็นหน้าต่างนั้นก็มีเฉพาะวงกบที่ไร้บานเป็นช่องโหว่ให้เห็นอยู่

รอบบ้าน จะมีก็เฉพาะบานประตูเท่านั้น ที่ทำให้บ้านหลังนี้ดูมิดชิดขึ้นมาหน่อย แต่ถึงอย่างไรก็ตาม คืนนี้พวกเราทุกคนจะต้องใช้ที่นี่เป็นที่ซุกหัวนอนอย่างไม่ต้องสงสัย
เราทั้งหมดเอาสัมภาระมาเก็บไว้ที่นี่ จากนั้นก็พากันเข้าไปทักทายตายายของไอ้นก ด้วยความเคารพนบนอบตามแบบฉบับไทยๆ เมื่อพูดคุยกันได้สักพักและดู

เหมือนว่าใกล้จะมืดค่ำแล้ว ตาของไอ้นกก็บอกให้พวกเรารีบไปจัดแจงหาอาบน้ำอาบท่า เพราะว่าที่นี่มีห้องน้ำแค่ห้องเดียว จากนั้นจะได้มากินข้าวเย็นร่วมกัน
เพื่อนๆส่วนหนึ่งต่างพากันไปทำภารกิจส่วนตัวอย่างเป็นระเบียบ ส่วนผมเองไม่รีบร้อนอะไรนักจึงเดินดูรอบๆบริเวณกับเพื่อนบางคน หลังจากนั้นจึงเดินกลับ

ไปที่บ้านหลังเล็กเพื่อที่จะไปเอาสัมภาระของตัวเอง โดยมีไอ้วุฒิเดินตามมาด้วย เมื่อเข้ามาในบ้านผมกับไอ้วุฒิค่อยๆเอนตัวลงนอนเหยียดยาวบนพื้น เพื่อรอเพื่อนๆที่ยัง

เข้าคิวอาบน้ำกันอยู่
ยังไม่ทันที่ร่างกายจะได้ผ่อนคลายให้หายเมื่อยล้า เสียงกระซิบเบาๆจากไอ้วุฒิก็ลอยมา "มึงเห็นอะไรหรือปล่าวว่ะ" ผมนอนนิ่งอยู่ครู่เดียว พร้อมกับสูดลมหายใจ

เฮือกใหญ่ ก่อนค่อยๆตอบมันกลับไป "เออกูเห็นแล้ว" "เอาไงดีว่ะ" ไอ้วุฒิถามด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสับสน "มึงเฉยๆเหอะ มันไม่ทำอะไรมึงหรอก" ผมตอบไอ้วุฒิมันไปอย่าง

นั้นแหละ ทั้งที่ตัวผมเองก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน แต่สิ่งที่เราทั้งคู่ทำได้และทำเหมือนกันอยู่ก็คือ.....จ้องมันไว้!!!! เราทั้งคู่จ้องมองพวกมันอย่างไม่ละสายตา
ซึ่งเราหวังเพียงว่า พวกมันคงจะไม่ลงมาเดินเล่นเพ่นพล่านข้างล่างก็พอใจแล้ว
แต่ยังไม่ทันไรสิ่งที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นก็เริ่มส่อแวว พวกมันทั้งหมดเริ่มส่งเสียงเอะอะโวยวาย คล้ายกับจะท้าทายผู้มาใหม่ บางตัวเริ่มวิ่งพล่านไปทั่วห้องเหมือน

ว่าอยากจะขอเปิดงานใจจะขาด จนในที่สุดเพียงไม่กี่อึดใจนาทีแห่งความระทึกใจก็มาถึง พวกมันส่วนใหญ่วิ่งกรูลงมาด้านล่าง ตามเสาบ้าง ตามผนังบ้าง ราวกับว่ามีพวก

เราทั้งคู่เป็นเป้าหมาย
ด้วยสัญชาตญาณที่มีอยู่ในตัว เริ่มผลักดันให้ผมต้องทำอะไรสักอย่าง ผมจึงตัดสินใจดีดตัวเองขึ้นจากพื้นและไม่ลืมที่จะคว้ากระเป๋าที่มีสัมภาระอันหนักอึ้งขึ้นมา

ด้วย พร้อมกันนั้นก็กระโจนออกจากที่เกิดเหตุอย่างลืมตาย โดยไม่จำเป็นต้องถามความเห็นจากไอ้วุฒิที่ยังนอนนิ่งไร้สติอยู่ข้างๆ แต่ยังไงซะไอ้วุฒิเองมันก็ฉลาดพอที่จะ

ตามผมออกไปพร้อมกับส่งเสียงโวยวายอย่างไม่เกรงใจใครไล่หลังผมมาติดๆ
สิ่งที่เราทั้งคู่เห็น จนทำให้เราเสียสติตามๆกันไปก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ มันก็แค่ไอ้สัตว์เลื้อยคลานที่ใหญ่กว่าจิ้งจกเท่านั้นเอง ซึ่งเราทั้งคู่ดันกลัวไอ้ตัวประหลาดนี้

เหมือนกันซะด้วย แต่ที่นี่ไม่ธรรมดาตรงที่ว่า มันไม่ได้มีแค่ตัวสองตัว เฉพาะแค่สายตาผมที่มองเห็น มันก็เกือบสิบตัวเข้าไปแล้ว!!! แถมแต่ละตัวมันยังแสดงความเป็นเจ้าถิ่น

ที่ไม่ให้เกียรติผู้มาเยือนเลยแม้แต่น้อย
ผมกับไอ้วุฒิ บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เพื่อนๆฟังอย่างออกรส แต่ดูเหมือนพวกมันจะไม่แปลกใจอะไรนักแถมยังแอบสะใจกันเล็กๆคล้ายกับจะรับรู้มาก่อนแล้ว

จึงทำให้ผมเข้าใจได้ว่า นี่คงเป็นเพียงแค่การรับน้องที่มีผมกับไอ้วุฒิตกเป็นเหยื่อกันตามลำพัง.....เฮ้อซึ้งใจจริงๆ

โปรดติดตามภาคต่อ ตอน3

เขียนโดย ขุนเดช

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น